เมนู

ปฏิสนธิคหณปัญหา ที่ 6


ครั้งนั้นพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีจึงมีพระราชปุจฉาถามอรรถปัญหาอันอื่น ต่อไปว่า
ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า คนที่ตายไปแล้ว จะไม่ปฏิสนธิเกิดมาเป็นร่างกาย
จิตใจสูญไปนี้ จะมีบ้างหรือ หรือว่าไม่มี
พระนาคเสนได้ฟังพระโองการฉะนี้จึงถวายพระพรว่า ดูรานะมหาบพิตร คนบางจำ
พวกดับจิตแล้วไม่เกิดอีกก็มี ที่กลับมาเกิดอีกก็มี
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีจึงซักถามต่อไปนี้ว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็น
เจ้าว่าบุคคลที่ดับจิตไม่ได้เกิดอีกนั้น ได้แก่คนจำพวกใด คนที่ดับจิตตายไปแล้วกลับเกิดใหม่นั้น
ได้แก่คนจำพวกใด นิมนต์วิสัชนาไปให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตร คนที่มีราคาทิกิเลสดับจิตแล้วเกิด
ใหม่ ที่หากิเลสมิได้ดับจิตแล้วไม่เกิดอีก ขอถวายพระพร
พระเจ้ากรุงมิลินท์จึงย้อนถามว่า ก็พระผู้เป็นเจ้านี้เล่าดับจิตแล้วจะเกิดใหม่ หรือว่าไม่
เกิดอีกในภพเป็นประการใด
พระนาคเสนวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ ถ้าว่า
อาตมาประกอบไปด้วยกิเลส ดับจิตไปก็ต้องเกิดใหม่ ถ้าว่าอาตมาหากิเลสมิได้ก็จะดับสูญไป
ไม่เกิดอีก ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นสาคลนคร ก็มีพระโองการสรรเสริญว่า กลฺโสสิ พระผู้เป็น
เจ้าวิสัชนานี้สมควรแล้ว
ปฏิสนธิคหณปัญหา คำรบ 6 จบเท่านี้

มนสิการปัญหา ที่ 7


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์มีพระราชโองการตรัสถามอรรถปัญหาต่อไปว่า
ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้า โยมนี้ยังสงสัยอยู่ ด้วยบุคคลไม่ปฏิสนธิคือไม่เกิด
ใหม่นั้น ไม่เกิดใหม่ด้วยโยนิโสมนสิการดังฤๅ